โชว์ฟอร์มดีเลิศ ยังไม่มีแพ้นับจากเข้ามาคุมกลุ่มเป็นนัดหมายที่ 11 ต่อเนื่องกัน 

โชว์ฟอร์มดีเลิศ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นการเจอกันระหว่าง เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยี่ยมของ เอฟเวอร์ตัน โดยฟอร์มการเล่นปัจจุบันในลีกของทั้งสองนั้น “สิงห์บลูส์” บุกไปอัด หงส์แดง 1-0 เหมือนกันกับ “ลูกกวาด” ที่บุกไปเชือด เวสต์บรอมวิชฯ 1-0

โธมัส ทูเคิ่ล ผู้จัดการทีมฟุตบอล เชลซีทำสถิติเยี่ยมยอด นับตั้งแต่มาคุมหลัง 10 เกมแล้ว ที่ยังไม่แพ้กลุ่มใด โชว์ฟอร์มดีเลิศ เกมนี้ส่ง ไค ออกตัวตัวจริงร่วมกับ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย โดยมี ติโม แวร์เนอร์ เป็นหน้าเป้า ขอตามความฝัน

ส่วนทางฝั่ง คาร์โล อันเชลอตติ พาทีมคว้าชัยในลีกมา 3 เกมติดนัดหมายนี้ให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน เป็นหน้าเป้า โดยมี อเล็กซ์ อิโวบี้, กิลฟี่ สิเกิร์ดส์สัน และก็ ริชาร์ลิซอน เกื้อหนุนเกมรุก ออกตัว เกมตอน 10 ตอนแรกไม่มีจังหวะให้ลุ้นกันมากเท่าไรนัก หากว่า “สิงห์บลูส์” จะเป็นฝ่ายครอบครองบอลได้เหนือกว่า

ตอน 15 รีซ เจมส์ พาบอลขึ้นมาจากดินแดนของตนเอง ก่อนที่จะซัดนอกกรอบไปติดบล็อค เบน ก็อดฟรีย์ รวมทั้งจากลูกเตะมุมตลอด จอร์จินโญ่ ได้วอลเลย์จากนอกกรอบแต่ว่าบอลก็หลุดเสาออกไป

ตอน 28 “ลูกอม” มาได้ลุ้นจากฟรีคิกระยะหวังผลหลัง ริชาร์ลิชอน โดนทำฟาวล์นอกกรอบกว่า 20 หลา ก่อนที่จะเป็น กิลฟี้ สิเกิร์ดส์สัน ซัดไปติดกำแพงออกข้างหลังเป็นเตะมุม

ช่วง 31 เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย โชว์ฟอร์มดีเลิศ พนันบอลขึ้นหน้าให้ มาร์กอส อลอนโซ่ หลุดเข้าไปในกรอบแล้วเฉือนมาเสาแรกให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ วิ่งมาแปไปไถล เบน ก็อดฟรีย์ เข้าประตูตนเองไป

นาที 41 สิงห์บลูส์ แทบได้เม็ดลำดับที่สองนำห่างหลัง อันเดรียส คริสเตนเซ่น ตักบอลมาให้ มาร์กอส อลอนโซ่ หลุดเข้าไปซัดเสาแรก แม้กระนั้นก็ยังโดน ปัดออกข้างหลังไปได้อีก

ตอนทดเจ็บนาที 45+1 ทอฟฟี่ได้โอกาสลุ้นตีเสมอหลัง อเล็กซ์ อิโวบี้ ไหลให้ อังเดร โกเมส ซัดบอลนอกกรอบแม้กระนั้นยังไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผลบอลสด

จบครึ่งแรก ขึ้นนำ 1-0 และก็ยังกลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง

ตอน 51 เจ้าของบ้าน เฉียดได้ลุ้นเม็ดลำดับที่สอง หลัง มาร์กอส อลอนโซ่ ปั่นฟรีคิกเยื้องด้านขวานอกกรอบ บอลพุ่งเกือบจะโค้งเสาแรกกระทั่ง จำต้องปัดปลายมือออกไป

ตอน 54 คัลลัม ตักบอลเข้ามาในกรอบให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ พักอกแล้วกลับตัวซัดผ่าน จอร์แดน เข้าไปอย่างงดงาม แต่ ผู้ตัดสินเช็กจาก วีเออาร์แล้วเปลี่ยนคำวินิจฉัย ไม่ให้ประตู เนื่องจากว่า เป็นแฮนด์บอลไปซะก่อน ทำให้เจ้าของบ้านชวดได้ประตูลำดับที่สองอย่างโชคร้าย

ช่องทางลุ้นแบบได้น้ำได้เนื้อยังเป็น “สิงห์บลูส์” ที่มีมากยิ่งกว่า นาที 60 ฮัดสัน-โอดอย ได้ซัดนอกกรอบบอล พุ่งเกือบจะลอดใต้คาน แม้กระนั้นยังไปติดปลายมือ

นาที 65 ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่วันนี้โชว์ฟอร์มได้เด่น เรียกจุดโทษให้เจ้าถิ่นได้หลังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด รวบล้มลงไป

ผู้ตัดสิน เดวิด คู๊ท เป่าให้จุดลูกโทษ โดยทันทีก่อนที่จะ จอร์จินโญ่จะรับหน้าที่ฆ่าเข้าไปอย่างใจยักษ์ให้ เชลซี ออกนำ 2-0

ช่วง 80 กองทัพของ ทูเคิ่ล แทบได้เม็ดลำดับที่สามหลัง ติโม แวร์เนอร์ แทรกเอาชนะ เบน ก็อดฟรีย์ แนวรับลูกกวาดเข้าไปซัดด้วยซ้ายเสาแรก แต่ว่ายังติดขาของ พิคฟอร์ด ออกหลังอย่างโชคร้าย

ช่วง 85 เมสัน เมาน์ท ผู้เล่นสำรองที่ลงมาไหลให้ แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปซัดติดบล็อค บอลเด้งมาเข้าทาง ก็องเต้ ตามมาซ้ำก็ยังไปติดเซฟ อีกรอบ ดูบอลสด

ตอนทดเจ็บ ช่วง 90+4 เมสัน เมาน์ท ได้ทดลองซัดกว่า 20 หลานอกกรอบบอลพุ่งแทบเข้า แม้กระนั้น ยังโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด พุ่งไปออกไปได้อีก จบเกม เชลซี แทรกเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 รั้งชั้น 4 ถัดไปมีเพิ่มเป็น 50 คะแนน หนี “ทอฟฟี่” ที่รั้งชั้น 5 ซึ่งมีเพียง 46 แต้มแค่นั้น

• รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (กัปตันทีม), อันเดรียส คริสเตนเซ่น, คูร์ท ซูม่า – รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.80), มาร์กอส อลอนโซ่ – คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (เมสัน เมาน์ท น.66), ไค ฮาแวร์ตซ์ – ติโม แวร์เนอร์ (คริสเตียน พูลิซิช น.90)

เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เมสัน โฮลเกท, ไมเคิ่ล คีน, เบน ก็อดฟรีย์, ลูก้าส์ ดีญ – อัลลัน, อังเดร โกเมส (แบร์นาร์ด น.76) – อเล็กซ์ อิโวบี้ (ทอม เดวิส น.56), กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน (กัปตันทีม) (โจชัว คิง น.70), ริชาร์ลิซอน – โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน