ทั้งยิงทั้งจ่าย ศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มบี

ทั้งยิงทั้งจ่าย เริ่มเกม โมลด์ ทีมเยือนเป็นข้างเขี่ยลูกเล่นก่อน ผ่านมาถึงนาทีที่ 3 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นเปิดสกอร์เมื่อจู่โจมขึ้นมาทางฝั่งขวา โจ วิลล็อค

เปิดบอลยัดเข้าไปในจุดโทษและก็เป็น เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ วิ่งโฉบมาแหย่เท้าที่บอลหวังเปลี่ยนแปลงทางให้เข้าพบกรอบประตูแม้กระนั้นโดนไม่ดีทำให้หลุดออกเสาไกลไปอย่างโชคร้าย ผลบอลสด

2 นาทีต่อมา กองทัพปืนใหญ่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับไวบอลมาอยู่ที่ นิโกล่าส์ เปกระเป๋า พาฉุดกระชากจักจี้เข้าพบจุดโทษโมลด์

ก่อนจ่ายด้วยข้างเท้าภายนอกให้ เอ็นเคเทียห์ หลุดผู้เดียวเข้าไปซัดเหน่งๆแม้กระนั้นดันไปติดเซฟปลายมือ อันเดรียส ลินเด้ นายด่านกลุ่มเยี่ยมที่โชว์ความนิ่งคุ้มครองป้องกันไว้ได้

ล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 16 ดาวิด ลุยซ์ เปิดบอลยาวหวังไปให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ใช้ความเร็ววิ่งไปรับบอลแต่ว่าแรงเกินความจำเป็น อันเดรียส ลินเด้ ผู้เฝ้าประตูโมลด์ออกมารับไว้ได้ไม่พลาด

นาทีต่อมา โมลด์ ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาระยะเกือบจะ 35 หลา มักนุส โวล์ฟฟ์ ไอเครม รับหน้าที่เปิดบอลลอยโด่งโค้งยัดเข้าไปในจุดโทษเจ้าถิ่น แบร์นด์ เลโน่

นายด่านปืนใหญ่ออกมาคว้าบอลไว้ได้โดยมีลำแข้งโมลด์กระโจนโหม่งแต่ว่าช้ากว่าเลยเปลี่ยนเป็นเข้าชนตัว เลโน่ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกฟาวน์

นาทีที่ 22 เป็นโมลด์ที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเปิดบอลของ แบร์นด์ เลโน่ นายด่านอาร์เซน่อลแล้วถูกแนวรับทีมเยือนกระแทกสวนกลับมาบอลมาอยู่ที่ มาร์ติน เอลลิงสังเวย ได้ตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยเท้าซ้ายระยะโดยประมาณ 25 หลา

แทบกึ่งกลางกรอบจุดโทษบอลพุ่งโค้งก่อนลอดตกพื้นแล้วเด้งทิ่มโคนเสาเข้าไปอย่างสุดงามจนปัญญาของ เลโน่ จะปกป้องทำเอาเจ้าตัวถึงกับออกอาการอารมณ์เสียอย่างยิ่งจริงๆ

ทัพปืนใหญ่พยายามโหมเกมบุกหวังทวงประตูคืนนาทีที่ 30 ดานี่ เซบายอส ส่งบอลทะลุช่องหวังให้ นิโกล่าส์ เปกระเป๋า ที่หลุดกับล้ำหน้ารวมทั้งเพียรพยายามวิ่งเข้าไปรับบอลแต่ว่าไม่ทันทำให้บอลหลุดออกข้างหลังไปอีกรอบกับจังหวะขาดๆเกินๆของเจ้าถิ่น

นาทีที่ 34 อาร์เซน่อลได้ลูกเตะมุม วิลเลี่ยน เปิดบอลไปเข้าหัว ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่เพิ่มเติมขึ้นมากระแทกแม้กระนั้นดูเหมือนจะโดนไม่ดีแนวทางบอลเลยไปเสาไกลตกไปที่หน้าแข้งโมลด์หวดสะสางออกไปพ้นเขตอันตราย ดูบอลสด

“เดอะ กันเนอร์ส” ครอบครองเกมได้มากกว่าแล้วก็ยังคงสร้างจังหวะเขียนสกอร์โดยตลอดนาทีที่ 38 เป็น ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่เพิ่มขึ้นมาอีกทีล้มตัวพุ่งกระแทกเต็มหัวจากลูกเตะมุมที่เปิดโดย วิลมัน เจ้าเดิมแต่ว่าแนวทางยังคงไม่ดีทำให้หลุดออกข้างหลังไปเช่นเคย

ทั้งยิงทั้งจ่าย นาทีที่ 43 อาร์เซน่อล จ่ายบอลเข้าไปกองตูดตาข่ายกลุ่มเยี่ยมกลับมิได้ประตูจากการเปิดบอลเลียดทางฝั่งซ้ายของ นิโกล่าส์ เปกระเป๋า ที่ยัดเข้าไปในจุดโทษให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้ล้มตัวยิงจ่อๆเข้าไปแม้กระนั้นมีสัญญาณจากผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงขาวเป็นลูกล้ำหน้า

แม้กระนั้นแล้วกองทัพปืนใหญ่มาตีเสมอ 1-1 ได้เสร็จก่อนหมดเวลา

วิลมัน ตัดบอลได้ส่งก่อนถัดมาให้ กรานิต ชาค้าง แล้วส่งต่ออีกรอบไปถึง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ทางฝั่งขวาเจ้าตัวไม่รอคอยช้าเปิดบอลหักข้อด้วยเท้าขวาหวังไปให้ โจ วิลล็อค

ที่ตระเตรียมวิ่งเข้ามาจุดสำหรับเพื่อนัดพบแม้กระนั้นมี คริสตอฟเฟอร์ เฮาเก้น ปราการหลังโมลด์วิ่งเข้ามาถึงบอลก่อนเพื่อตัดบอล กลับถูก วิลล็อคแทรกล้มลง ไปกระโดดบอลไหลเข้าประตูตนเองไป หน้าแข้งโมลด์พากเพียรคัดค้านว่า เฮาเก้น ถูกชนจากทางข้างหลังแต่ว่าไม่เป็นผล ฮาลิล อูมุต เมเลอร์ เท่าเปาชาวตุรกียืนยันการเป็นประตูดังเดิม

จบครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล ออกแรงเมื่อยล้าติดตามเสมอ โมลด์ อยู่ที่สกอร์ 1-1
กลับมาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาข้างหลัง มาถึงนาทีที่ 54 อาร์เซน่อลพลาดได้ประตูขึ้นนำไปอย่างโชคร้ายจากจังหวะเปิดบอล

ทางฝั่งขวาของ โจ วิลล็อค เป็น อันเดรียส ลินเด้ นายด่านโมลด์เพียรพยายามออกมาปัดแต่ว่าบอลกลับหลุดไปเข้าทาง เซอัด โคลาซินัช ที่ได้ยืนแประยะไม่ถึง 5 หลาแม้กระนั้นเจ้าตัวกลับเตะใต้บอลทำเอาผ่านคานออกไปแบบไม่เชื่อสายตาเพื่อนพ้องร่วมกลุ่ม

ใบเหลืองของเกมนี้เกิดขึ้นนาทีที่ 58 เป็นของฝั่งเจ้าถิ่นโดย ดาวิด ลุยซ์ ใช้แขนด้านขวาเข้าไปอัดที่่ท้องของ โอฮี โอมอยยวนโฟ ก่อนที่จะชิงโต้เถียงโหม่งบอล

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดฟาวน์และก็หมายโทษ ลุยซ์ ในทันทีโทฐานเจตนาใช้กำลังกับคู่แข่ง อาร์เซน่อลได้ประตู แซงนำ 2-1 จนได้ในนาทีที่ 62 จากจังหวะหน้ากรอบจุดโทษโมลด์ โดย กรานิต ชาค้าง แงะบอลให้ โจ วิลล็อค บอลโลกร้อนแรง

ทั้งยิงทั้งจ่าย หลุดเข้าไปเปิดบอลทางขอบเส้นฝั่งขวาและก็เป็น เชริฟฟ์ ซินยาน ลำแข้งกลุ่มเยี่ยมที่อุตสาหะยื่นเท้าเข้ามาตัดบอลแต่ว่าดันไม่ถูกเหลี่ยมทำให้เข้าประตูตนเองไปอีกรอบ

ราวกับกองทัพปืนใหญ่จะลำพองใจนาทีที่ 69 ได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ส่งต่อให้ บูกาโย่ ซาก้า ทางฝั่งขวาก่อน ซาก้า จะหักข้อเปิดบอล ย้อนมาให้นิโกล่าส์ เปกระเป๋า ที่วิ่งเข้ามากดเน้นย้ำๆบอลพุ่งอย่างจรวดแทรกโคนเสาเข้าไปอย่างงดงาม

นาทีที่ 72 โมลด์ ได้ลุ้นบ้างจาก มาร์ติน เอลลิงสังเวย ได้ตั้งป้อมกดเต็มข้อบริเวรฝั่งขวาของกรอบจุดโทษแต่ว่าแนวทางไม่ดีเยอะแค่ไหนบอลพุ่งไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ รับเข้าซองไม่มีหก
อาร์เซน่อล มาได้ประตูนำขาด 4-1นาทีที่ 88 นิโกล่าส์ เปกระเป๋า ส่งบอลยัดไปให้ โจ วิลล็อค ที่วิ่งปาดหน้าหน้าแข้งโมลด์ก่อน วิลล็อค สัมผัสบอลหนึ่งจังหวะแล้วกดด้วยเท้าขวาในทันทีบอลพุ่งเสยแทงใต้คานไม่เหลือซาก รวมทั้งนับเป็นประตูส่งท้ายของเกมนี้

จบเกม อาร์เซน่อล เร่งเครื่องรัวแซงใส่ โมลด์ เยิน 4-1 ยังคงโชว์ฟอร์มสุดเร่าร้อนสม่ำเสมอรับ 9 แต้มเต็มจาก 3 นัดหมายยึดตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มอย่างแน่นแฟ้น